ผู้เขียน หัวข้อ: เทียบให้เห็น! โบท็อกซ์ลดกราม VS ร้อยไหม แบบไหนเห็นผลกว่า  (อ่าน 219 ครั้ง)

w.cassie

  • บุคคลทั่วไป
   เวลาที่ผ่านไปมักทำให้หลายคนเป็นกังวลกับปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยเนื่องจากคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวที่เริ่มลดลง ด้วยเหตุนี้ หลายคนคงนึกถึงวิธีการแก้ไขปัญหานี้อย่างการทาครีม การออกกำลังกาย หรือการใช้โบท็อกซ์ลดกรามและการร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้าให้กลับมาเต่งตึงเหมือนเคย แต่คนจำนวนไม่น้อยก็ยังสงสัยว่าการทำโบท็อกซ์นั้นแตกต่างจากการร้อยไหมอย่างไร รักษาด้วยวิธีการไหนถึงเห็นผลมากกว่ากัน หากคุณกำลังสงสัยในตอนนี้ก็อย่ารอช้า รีบเลื่อนอ่านลงมาได้เลย!


   ผู้เชี่ยวชาญได้ลงความเห็นว่า การรักษาที่ไม่ลงลึกไปยังผิวชั้นลึกนั้นไม่สามารถช่วยให้ผิวหน้าที่หย่อนคล้อยกลับมาตึงได้ ดังนั้น การฉีดโบท็อกซ์และการร้อยไหมจึงถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาตรงนี้ แพทย์ส่วนใหญ่ได้ให้ความเห็นกับเรื่องนี้ไว้ว่า ความแตกต่างระหว่างการปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกซ์ลดกรามและการร้อยไหมประเภทต่าง ๆ นั้นดูได้จากกระบวนการทำงานของวิธีรักษาแต่ละประเภท เพราะวิธีการทำงานของสารที่ต่างกันก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีความแตกต่างกันนั่นเอง
   
การฉีดโบท็อกซ์ลดกรามปรับหน้าเรียว
   จริง ๆ แล้ว การฉีดโบท็อกซ์ทุกประเภทนั้นมีลักษณะการทำงานที่คล้ายกัน โดยโบท็อกซ์นั้นเป็นโปรตีนที่สกัดได้จากแบคทีเรียที่มีฤทธิ์ยับยั้งให้สารสื่อประสาทบริเวณที่ฉีดให้ทำงานได้น้อยลงจนทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเล็กและเรียวลง หรือพูดง่าย ๆ ให้เห็นภาพ โบท็อกซ์ไม่ว่าจะเป็นโบท็อกซ์ลดกราม หรือ โบท็อกซ์ประเภทไหน ๆ ก็จะมีหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อนั่นเอง โดยปกติแล้ว โบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ทันทีหลังฉีดและไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น แต่เราอาจจะต้องเสียเงินค่อนข้างบ่อยในการทำ เพราะจริง ๆ แล้วโบท็อกซ์สามารถออกฤทธิ์ได้ประมาณแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น

การร้อยไหมประเภทต่าง ๆ เพื่อเปลี่ยนรูปใบหน้า
   การร้อยไหมอย่างไหมก้างปลาและไหมเรียบนั้นได้ผลที่แตกต่างจากการฉีดโบท็อกลดกรามหรือลดส่วนอื่น ๆ เพราะการร้อยไหมนั้นไม่ได้เป็นการฉีดสารอะไรเข้าใบหน้า แต่จะเป็นการใช้ไหมละลาย PDO (Polydioxanone) ที่ได้รับการรับรองว่าสามารถใช้ในทางการแพทย์ได้มาฉีดเพื่อดึงยกกระชับใบหน้า โดยหลังจากฉีดแล้ว ไหมชนิดนี้จะค่อย ๆ ละลายหายไป ในปัจจุบันนี้ หลายคลินิกได้มีไหมประเภทต่าง ๆ คอยให้บริการ เช่น ไหม PDO หรือไหมเรียบ ไหมก้างปลา และไหม PCL เป็นต้น โดยการร้อยไหมนั้นใช้เวลาพักฟื้นให้หน้าเข้าที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และไหมบางประเภทสามารถยกกระชับใบหน้าได้นานถึง 24 เดือนเลยทีเดียว 

   หากพูดโดยสรุป การทำหน้าเรียวด้วยการฉีดโบท็อกซ์ลดกรามหรือการร้อยไหมนั้นแตกต่างกันในเรื่องเวลาที่สารสามารถอยู่ในร่างกายและเวลาในการพักฟื้น หากเราต้องการผลลัพธ์ในทันทีและมีงบประมาณในการทำเรื่อย ๆ การฉีดโบท็อกซ์ก็อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับเรา แต่ถ้าหากเราไม่ต้องการเจ็บตัวหลาย ๆ ครั้ง การร้อยไหมก็ฟังดูเป็นวิธีรักษาที่ดีเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าจะวิธีไหนก็สามารถช่วยให้เรามีหน้าเรียวได้หากเราได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตในการรักษา เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนก็อย่าลืมหาคลินิกที่ไว้ใจได้ และตรวจสอบคุณภาพของแพทย์และคลินิกก่อนทำทุกครั้ง