เมื่อเทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องไร้พรมแดน การลงทุนก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้ว่าตัวคุณจะนั่งอยู่ที่ประเทศไทย แต่หากต้องการลงทุนในหุ้นที่สหรัฐอเมริกา เวียดนาม ญี่ปุ่น หรือประเทศอื่น ๆ ก็สามารถทำได้โดยไม่ยุ่งยากเหมือนในอดีต การ
ลงทุนตลาดต่างประเทศจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ
สำหรับนักลงทุนคนไหนที่สนใจอยากลงทุนหุ้นในต่างประเทศ แต่ยังเป็นมือใหม่ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้เรามีข้อมูลสำคัญสำหรับการลงทุนตลาดต่างประเทศมาฝากกัน เพื่อเป็นการติดอาวุธและเตรียมพร้อมก่อนลงทุน เพิ่มโอกาสสร้างกำไรจากการลงทุนได้มากขึ้นนั่นเอง
ข้อดี-ข้อเสียของการลงทุนตลาดต่างประเทศ ในทุกการลงทุน จะเป็นหุ้นในประเทศหรือต่างประเทศ ก็ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ก่อนตัดสินใจลงทุน คุณจึงจำเป็นต้องศึกษาทั้ง 2 อย่างนี้ให้ดี เพื่อจะได้ระมัดระวังในการลงทุน ส่วนข้อดีและข้อเสียของการลงทุนกับหุ้นต่างประเทศจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ข้อดีของการลงทุนหุ้นต่างประเทศ- สร้างโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในบริษัทชั้นนำระดับโลก ซึ่งส่วนมากเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้สูง เช่น Apple, Tencent, Tesla หรือ Meta
- ช่วยกระจายความเสี่ยง กรณีประเทศไทยเกิดภาวะเงินเฟ้อจนเงินบาทกลายเป็นเงินที่ไม่มีค่า เงินที่ลงทุนไปในตลาดหุ้นไทยก็สูญเปล่าเช่นกัน แต่หากแบ่งเงินไปลงทุนในต่างประเทศบ้าง ก็ช่วยลดความรุนแรงของความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
- มีโอกาสลงทุนในหุ้นใหม่ ๆ ที่มีแนวโน้มจะเติบโตได้สูงกว่าการลงทุนในหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม New Economy จำพวก Fintech, E-commerce, AI หรือ Mobile Application ที่มีโอกาสทำกำไรได้มากในอนาคต
- สามารถทำการขายชอร์ตหรือ Short Sell ได้คล่องตัวกว่าหุ้นในประเทศไทย เป็นโอกาสดีที่จะทำเงินจากหุ้นต่างประเทศที่อยู่ในช่วงขาลงได้
- กำไรที่ได้จากการขายหุ้นที่ลงทุนในตลาดต่างประเทศจะได้รับการยกเว้นภาษี ยกเว้นเงินปันผลที่จะมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%
ข้อเสียของการลงทุนหุ้นต่างประเทศ- ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำค่อนข้างสูง เริ่มตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน
- ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอนเงินเข้าและออกจากประเทศบ่อย ๆ ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์จะมีค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน
- หุ้นต่างประเทศไม่มีการกำหนดราคาสูงสุดและต่ำสุดที่สามารถซื้อขายได้ในแต่ละวัน หากไม่มีเวลาดูพอร์ต อาจ Cut Loss ไม่ทันได้
- มีความเสี่ยงขาดทุนจากค่าเงินที่ผันผวน
เมื่อรู้ว่าการลงทุนตลาดต่างประเทศมีข้อดีและข้อเสียอย่างไรแล้ว ที่เหลือก็เป็นการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นที่ต้องการลงทุนว่ามีแนวโน้มจะทำกำไรได้หรือไม่ แต่อย่าลืมว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนเสมอ
