หลายๆ คนพอเห็น
โคมไฟเพดานสวยๆ สักอัน ก็อยากจะซื้อมาแต่งบ้านเลยทันที แต่เดี๋ยวก่อน! เพราะหากเลือกไม่ดี และไม่ถูกต้อง ก็อาจทำให้โคมไฟนั้นๆ ไม่ตอบโจทย์การใช้งาน แถมยังเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุด้วย ในบทความนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำวิธีเลือกโคมไฟเพดาน ว่าควรจะเลือกอย่างไรให้ได้ทั้งฟังก์ชันและดีไซน์
จำนวนของไฟควรเหมาะกับขนาดห้อง ข้อนี้เป็นข้อที่หลายๆ คนอาจละเลยไปเวลาจะเลือกติดโคมไฟเพดาน เพราะคิดว่าติดโคมไฟเพดานอันใหญ่ๆ อันเดียวก็เอาอยู่แล้ว แต่จริงๆ คุณควรคำนึงถึงขนาดห้องด้วยว่าห้องของคุณมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ซึ่งหากมีขนาดเล็ก ก็แนะนำว่าให้ติดโคมไฟขนาดกลาง-ใหญ่เพียงอันเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่หากห้องมีขนาดใหญ่ ก็อาจเลือกติดโคมไฟขนาดใหญ่ตรงกลาง และมีไฟเพดานดวงเล็กๆ โดยรอบเพื่อที่ห้องจะได้สว่างแบบทั่วถึง
เลือกความสูงให้พอดี ถึงแม้ว่าโคมไฟเพดานที่มีลักษณะยาวและใหญ่จะดูสวยงามกว่าโคมไฟดวงเล็กๆ แต่คุณก็ควรคำนึงถึงความสูงของห้องของคุณด้วยว่ามีความสูงมากน้อยเพียงใด เพราะหากห้องของคุณไม่ได้มีเพดานสูงมากเท่าไรนัก เมื่อติดโคมไฟเพดานที่ยาวมากๆ ก็อาจทำให้ห้องของคุณดูแคบลงได้
การใช้พลังงาน หากอยากติดโคมไฟเพดานให้ได้ทั้งความสวยงาม ฟังก์ชัน และไม่กินไฟ ก็ควรจะเลือกหลอดไฟที่เหมาะกับการใช้งานและควรเลือกหลอดไฟที่ไม่กินไฟ อย่างหลอด LED ก็เป็นอีกหลอดที่น่าสนใจ เพราะสามารถช่วยประหยัดไฟได้ถึง 90% ทั้งยังไม่ทำให้ห้องร้อน มีความคงทน ไม่ต้องคอยปรับเปลี่ยนบ่อยๆ
การบำรุงรักษา นอกจากนี้คุณก็ควรคำนึงถึงเรื่องของการบำรุงรักษาด้วยว่า โคมไฟที่คุณจะนำมาติดตั้งนั้นบำรุงรักษายากหรือเปล่า เช่น เช็ดทำความสะอาดยากไหม ต้องทำความสะอาดหรือเปลี่ยนอะไหล่บ่อยแค่ไหน เพราะหากคุณคิดว่าในระยะยาวคุณไม่สามารถมาทำความสะอาดได้บ่อยๆ โคมไฟนั้นๆ ก็อาจไม่เหมาะกับคุณสักเท่าไหร่
รู้แบบนี้แล้วเวลาจะเลือกซื้อโคมไฟเพดาน ก็อย่าคำนึงถึงแต่เรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะคำนึงถึงทั้งจำนวนหรือความถี่ในการติดไฟ เลือกความสูงให้พอดี เลือกหลอดไฟที่ไม่สิ้นเปลืองพลังงานจนเกินไป และเรื่องการบำรุงรักษาที่ไม่ควรจะดูแลรักษายากจนเกินไป
