« เมื่อ: มีนาคม 08, 2024, 09:27:06 am »
ทำความเข้าใจ อะไรคือ Roadside Assistance ?
Roadside Assistance Service หรือ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน คือ สิทธิประโยชน์ที่ติดมากับประกันรถยนต์ ซึ่งให้บริการที่ช่วยผู้ขับขี่รถยนต์กรณีเกิดข้อผิดพลาดหรือปัญหาทางเทคนิคโดยที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถแก้ไขได้
ดังนั้น เรากำลังประสบปัญหาทางเทคนิคไม่ว่าจะเป็นรถดับกลางทาง น้ำมันหมด แบตฯเสีย ยางแตก ทำกุญแจหาย แม้กระทั่งต้องการเช่ารถมาขับแทนระหว่างที่นำรถยนต์เข้าศูนย์ซ่อม ทางบริษัทฯประกันจะเป็นผู้ให้บริการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จำเป็นให้ แต่ทั้งนี้อาจไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด หรือจำกัดจำนวนครั้งในการให้บริการ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและรูปแบบแผนประกันรถยนต์ที่ได้รับ
เมื่อเรารถเสียอยู่ข้างถนน โปรแกรมช่วยเหลือฉุกเฉินจะเชื่อมต่อเรากับผู้ให้บริการที่เป็นมืออาชีพ สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่ารถจะขัดข้องเพียงเล็กน้อยก็ตาม เพราะหากไม่มีการวางแผน หรือไม่ได้รับความคุ้มครองจากบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน การพึ่งพาความช่วยเหลือจากอู่ซ่อม หรือศูนซ์ซ่อมใกล้จุดเกิดเหตุที่ปราศจากการคุ้มครองจากบริษัทประกันก็อาจมีราคาแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรถของเราเกิดเสียระหว่างทางในระยะหลายกิโลเมตรจากสถานีบริการน้ำมันหรือช่างซ่อมที่ใกล้ที่สุด
มาดูกันดีกว่าว่า Roadside Assistance Service หรือ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ที่ติดมากับประกันรถยนต์จะมีอะไรบ้าง Mr.OOHOO รวบรวมมาให้ครบตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลย! 
เมื่อรถเสียหรือเกิดเหตุฉุกเฉินและต้องการที่ปรึกษาหรือประสานงานต่างๆ บริษัทประกันภัยมีบริการให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิค สามารถโทรแจ้ง หรือขอความช่วยเหลือได้ 24 ชั่วโมง เช่น ติดต่อจัดหารถเช่าหรือประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ แนะนำสโรงพยาบาล และอื่นๆอีกมากมาย
2.บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจัดหาคนขับรถ
สืบเนื่องมาจากความปลอดภัยของผู้ขับขี่เพื่อเลี่ยงพฤติกรรมเมาแล้วขับ หากผู้ขับขี่ไม่สามารถขับรถได้เนื่องจากมีอาการมึนเมา บริษัทประกันจะจัดหาคนที่สามารถไปส่งที่พักอาศัยได้ แต่อาจมีข้อจำกัดด้านการชำระค่าบริการระหว่างผู้ขับขี่และคนขับไปส่ง ซึ่งบริษัทประกันจะรับหน้าที่ในการประสานงานหาคนให้เท่านั้น และผู้ขับขี่จะต้องติดต่อบริษัทประกันล่วงหน้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนทำการขอใช้บริการ
3.บริการช่วยเหลือฉุกเฉินพ่วงแบตเตอรี่
ในกรณีที่แบตเตอรี่รถยนต์หมดหรือเสื่อมทำให้ไม่สามารถเดินทางต่อได้ บริษัทประกันจะช่วยประสานงานจัดหาช่างมาพ่วงแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนใหม่แต่อย่างใด บริการนี้เป็นเพียงการให้ความช่วยเหลือเพื่อให้รถสามารถขับเคลื่อนไปต่อยังอู่หรือศูนย์ซ่อมที่ใกล้ที่สุดได้เท่านั้น
4.บริการช่วยเหลือฉุกเฉินรถยก รถลาก
ในกรณีที่รถเสียจนไม่สามารถขับเคลื่อนหรือซ่อมได้ ประกันรถยนต์มักจะให้บริการคอยช่วยเหลือประสานงานจัดหารถมายก หรือรถลากจูง ในการเคลื่อนย้ายรถยนต์นำส่งอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด ซึ่งการให้บริการรถยด รถลากนี้จะให้บริการฟรีที่ระยะทางเริ่มต้น 25 กิโลเมตร แต่ถ้าหากมีระยะทางที่เกินกว่านั้น ผู้ขับขี่อาจจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเอง
5.บริการช่วยเหลือเติมน้ำมันฉุกเฉิน
หากรถยนต์ดับกลางทาง เนื่องมาจากน้ำมันหมดฉุกเฉินจนไม่สามารถเคลื่อนรถไปยังปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดได้ บริษัทประกันจะมีบริการให้ความช่วยเหลือจัดหาเจ้าหน้าที่เพื่อนำส่งน้ำมันไปเติมให้ฟรีในปริมาณที่เพียงพอต่อการขับไปหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด ทั้งนี้อาจมีการจำกัดจำนวนครั้ง รวมทั้งปริมาณในการเติมน้ำมันหนวยเป็นลิตรต่อครั้งด้วย
6.บริการช่างกรณีทำกุญแจสูญหาย
ผู้ขับขี่สามารถเลือกบริการได้อย่างใดอย่างหนึ่่งระหว่างส่งเจ้าหน้าที่ไปรับกุญแจสำรอง ภายในระยะทางที่กำหนด ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 20 กิโลเมตรต่อครั้ง หากระยะทางเกิดกำหนด อาจการคิดมีค่าบริการเพิ่มเติม เริ่มจาก 25 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละนโยบายของทางบริษัทประกัน
ทั้งนี้ยังมี บริการช่างกุญแจเพื่อเปิดประตูรถยนต์ ณ ที่เกิดเหตุ กรณีล็อครถโดยไม่ตั้งใจ เจ้าหน้าที่จะประสานงานเพื่อนำกุญแจสำรองมาให้ ณ จุดเกิดเหตุอีกด้วย
7.บริการรถยนต์ทดแทน
บริการเพื่อการเดินทางที่ต่อเนื่อง ทางบริษัทประกันจะดำเนินการจัดหารถยนต์มาทดแทน รวมทั้งกรณีที่ต้องการโรงแรมที่พัก หรือตั๋วรถขนส่งสาธารณะให้กับลูกค้า กรณีที่รถยนต์ของลูกค้าเสียฉุกเฉินระหว่างการเดินทางไกลในระยะทางมากกว่า 100 กม. ขึ้นไปจนต้องมีการรยก-ลากไปยังศูนย์บริการและไม่สามารถซ่อมให้แล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งบริการนี้อาจมีค่าบริการหรือส่วนต่างที่ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบเอง
* บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจะเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่ทำ
สิ่งสำคัญที่ควรทราบก่อนเรียกใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน คือ กรมธรรม์ส่วนใหญ่มีข้อจำกัดด้านบริการและการชำระเงิน เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดในการซื้อประกันรถยนต์ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินติดมาด้วย คือการเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ คุณสมบัติ และค่าใช้จ่ายของแต่ละแพ็กเกจอย่างรอบคอบ หากรู้ว่าต้องเดินทางไกลอยู่บ่อยครั้ง มีความเสี่ยงที่อาจเกิดเหตุรถยนต์ดับกลางทาง ก็ควรเช็กบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน พร้อมความคุ้มครองที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในระยะใกล 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 11, 2024, 11:21:18 am โดย redeyes2023 »
บันทึกการเข้า
