โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ มีหน้าที่ในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ กล้ามเนื้อ กระดูก และเนื้อเยื่อต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยในการย่อยอาหาร ขนส่งสารอาหาร และสร้างฮอร์โมนอีกด้วย โดยทั่วไปแล้ว โปรตีนสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทหลักๆ คือ
โปรตีนจากพืช และโปรตีนจากสัตว์ ทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติและประโยชน์ที่แตกต่างกัน บทความนี้จึงจะเปรียบเทียบกันหมัดต่อหมัด เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจความแตกต่างของทั้งสองประเภทอย่างละเอียดยิ่งขึ้น
โปรตีนจากพืช โปรตีนจากพืชเป็นโปรตีนที่ได้จากพืช เช่น ถั่ว เมล็ดพืช ธัญพืช ผักใบเขียว และเห็ด โปรตีนจากพืชโดยทั่วไปจะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน ยกเว้นกรดอะมิโนไลซีน ซึ่งพบมากในถั่วเหลืองและถั่วลันเตา ดังนั้น ผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารมังสวิรัติหรือวีแกนจึงควรเลือกรับประทานอาหารจากพืชหลากหลายชนิด เพื่อให้ได้รับกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน
ข้อดีของโปรตีนจากพืช
- ย่อยง่าย ดูดซึมได้ดี
- แคลอรี่ต่ำ มีไขมันอิ่มตัวต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล
- มีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มท้องนาน
- มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง และโรคอ้วน
ข้อเสียของโปรตีนจากพืช
- กรดอะมิโนไลซีนอาจไม่เพียงพอ หากไม่รับประทานพืชหลากหลายชนิด
- รสชาติอาจไม่อร่อยเท่าโปรตีนจากสัตว์
โปรตีนจากสัตว์ ถัดจากโปรตีนจากพืช ก็มาในส่วนโปรตีนจากสัตว์กันบ้าง โดยโปรตีนประเภทนี้เป็นโปรตีนที่ได้จากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ และปลา โปรตีนจากสัตว์โดยทั่วไปจะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน และมีปริมาณโปรตีนสูง อย่างไรก็ตาม โปรตีนจากสัตว์บางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน นมและไข่ที่มีไขมันอิ่มตัวสูง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
ข้อดีของโปรตีนจากสัตว์
- มีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน
- มีปริมาณโปรตีนสูง
- ดูดซึมได้ง่าย
- มีรสชาติอร่อย
ข้อเสียของโปรตีนจากสัตว์
- อาจมีไขมันอิ่มตัวสูง คอเลสเตอรอลสูง
- อาจเป็นแหล่งของสารก่อมะเร็ง
- อาจมีสารตกค้างจากยาปฏิชีวนะหรือฮอร์โมน
โปรตีนจากพืชและโปรตีนจากสัตว์ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนอย่างเหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ไลฟ์สไตล์ เป้าหมายด้านสุขภาพ และรสนิยมส่วนตัว
หากต้องการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ควรรับประทานโปรตีนจากพืชและโปรตีนจากสัตว์อย่างผสมผสาน โดยเลือกรับประทานอาหารจากพืชเป็นหลัก และรับประทานเนื้อสัตว์ในปริมาณที่พอเหมาะ หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมัน นมและไข่ที่มีไขมันอิ่มตัวสูง สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง หรือโรคอ้วน ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนปรับเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานอาหาร