เมื่อโลกของเราเข้าสู่ยุคที่งาน IT กลายเป็นงานที่มีบทบาทสำคัญ ธุรกิจจึงต้องเริ่มปรับตัวด้วยการว่าจ้างบุคลากรที่มีคุณภาพ ซึ่ง
บริการ IT Outsourcing ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นบริการที่มาพร้อมความยืดหยุ่น และช่วยอำนวยความสะดวกด้าน IT ได้มากขึ้น ซึ่งบทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับปัจจัยที่ควรพิจารณาในการใช้บริการ IT Outsourcing เพื่อให้สามารถเลือกใช้บริการได้ตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่ามากที่สุด ติดตามกันได้เลย
บริการ IT Outsourcing คืออะไร? บริการ IT Outsourcing คือ บริการจ้างบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอที เข้ามาทำงานในบริษัท รูปแบบคล้ายการจ้างพนักงานแบบ Freelance แต่จะเน้นไปที่การทำงานเป็นโปรเจ็กต์ หรือ งานเฉพาะด้าน โดยไม่ต้องจ้างเป็นพนักงานประจำ
ข้อดีของการใช้บริการ IT Outsourcing- ประหยัดต้นทุน: ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานประจำ เช่น เงินเดือน ประกันสังคม สวัสดิการต่าง ๆ
- ได้บุคคลที่มีความเชี่ยวชาญ: บริษัท IT Outsourcing มักมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายสาขา
- ความยืดหยุ่น: สามารถเลือกจ้างพนักงานตามจำนวนที่ต้องการ และระยะเวลาที่ต้องการ
- โฟกัสงานหลัก: ช่วยให้บริษัทสามารถโฟกัสกับงานหลักของตัวเอง โดยไม่ต้องเสียเวลากับงานด้านไอที
ประเภทของ IT Outsourcing- Project-based: จ้างพนักงานเพื่อทำงานเฉพาะโปรเจ็กต์
- Staff augmentation: จ้างพนักงานเพื่อเสริมทีมไอทีที่มีอยู่
- Managed services: จ้างบริษัท IT Outsourcing ดูแลระบบไอทีทั้งหมดของบริษัท
4 ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกใช้บริการ IT Outsourcingการใช้บริการ IT Outsourcing กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ธุรกิจหลายแห่งเลือกใช้บริการนี้เพื่อประหยัดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นในการทำงานด้านไอที
อย่างไรก็ตาม การจะเลือกใช้บริการ IT Outsourcing นั้น จำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้บริการที่ตรงกับความต้องการ และคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุนไป
1. ประเภทของงาน
งานเฉพาะทาง: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบความปลอดภัย
งานทั่วไป: เหมาะสำหรับงานที่ไม่ซับซ้อน เช่น การดูแลระบบเครือข่าย การดูแลระบบอีเมล์
2. ขนาดของงาน
งานขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับงานที่สามารถเสร็จสิ้นได้ภายในระยะเวลาสั้น เช่น การออกแบบเว็บไซต์
งานขนาดใหญ่: เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้เวลาและทรัพยากรมาก เช่น การพัฒนาระบบ ERP
3. งบประมาณ
เปรียบเทียบราคา: เปรียบเทียบราคาจากบริษัท IT Outsourcing หลายแห่ง พิจารณาค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมการติดตั้ง ค่าบำรุงรักษา
ประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน: พิจารณาว่าการใช้บริการ IT Outsourcing ช่วยให้ประหยัดต้นทุนหรือเพิ่มประสิทธิภาพได้หรือไม่
4. ความน่าเชื่อถือของบริษัท
ประสบการณ์: เลือกบริษัทที่มีประสบการณ์ในงานที่ต้องการ ตรวจสอบผลงานที่ผ่านมา
ความน่าเชื่อถือ: ตรวจสอบสถานะทางการเงินของบริษัท อ่านรีวิวจากลูกค้า
โดยสรุปแล้วการเลือกบริษัท IT Outsourcing ที่เหมาะสม จะช่วยให้ธุรกิจของคุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากบริการ IT Outsourcing ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการ ควรศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบข้อเสนอ และเลือกบริษัทที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจมากที่สุด