ปัญหาสุขศาสตร์อุตสาหกรรมที่ไม่สมดุล ทำให้ผู้ปฏิบัติงานหลายๆ คนรับความเสี่ยงจากมลภาวะ และอุณหภูมิที่สูงเกินไป จนอาจทำให้ร่างกายย่ำแย่ได้ ปัญหานี้พบได้บ่อยในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมเกษตร เป็นต้น ความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานได้หลายประการ ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสำคัญกับการ
ตรวจความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน
เข้าใจปัญหาความร้อนในที่ทำงานภาคอุตสาหกรรมความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมคือสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงจนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน ความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมสามารถมาจากแหล่งต่างๆ เช่น เครื่องจักร กระบวนการผลิต แสงแดด หรือสภาพอากาศ ส่งผลให้ต้องหมั่นตรวจความร้อนในที่ทำงานระดับอุตสาหกรรม เพื่อลดโอกาสก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพหลากหลายหลายประการเหล่าน้
โรคลมแดด เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ทัน ทำให้เกิดอาการตัวร้อน อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ไปจนถึงช็อกและเสียชีวิต
โรคเส้นเลือดสมอง เกิดจากการที่เส้นเลือดในสมองขยายตัวมากเกินไป ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อาเจียน ไปจนถึงอัมพาต
โรคหัวใจ เกิดจากการที่หัวใจทำงานหนักในการสูบฉีดเลือดเพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย ทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว ไปจนถึงหัวใจวาย
ปัญหาที่เกิดจากความร้อนในที่ทำงานประสิทธิภาพในการทำงานลดลง พนักงานที่ทำงานในที่ร้อนจะรู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียได้ง่าย ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
อัตราการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น พนักงานที่ทำงานในที่ร้อนจะรู้สึกไม่สบายตัวและวอกแวกได้ง่าย ส่งผลให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น
ความสำคัญของบริการตรวจความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมบริการตรวจความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมมีความสำคัญต่อความปลอดภัยของพนักงาน เพราะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถระบุและแก้ไขความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้พนักงานมีสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน บริการตรวจความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมประกอบด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้
สำรวจสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อระบุแหล่งที่มาของความร้อนวัดค่าอุณหภูมิและปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความร้อน เช่น ความชื้นสัมพัทธ์ ความเข้มของแสงแดด
คำนวณค่าดัชนีความร้อน (Heat Stress Index: WBGT) ซึ่งเป็นค่าที่ใช้วัดระดับความร้อนสะสมในร่างกาย
เปรียบเทียบค่า WBGT กับค่ามาตรฐานความปลอดภัยหากผลการวัดค่า WBGT สูงกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัย ผู้เชี่ยวชาญจะเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อลดระดับความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรม เช่น
- ปรับปรุงระบบระบายอากาศ
- ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันความร้อน
- ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต
- กำหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับการทำงานในที่ร้อน
ข้อควรพิจารณาก่อนใช้บริการตรวจความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมผู้ประกอบการควรเลือกใช้บริการตรวจความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมจากผู้ให้บริการที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ขอบเขตของการตรวจวัด ได้แก่ พื้นที่ที่จะทำการวัด ระยะเวลาในการวัด และปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องการวัด
- ครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการวัด
- มาตรฐานที่ใช้ในการประเมินผล
- ค่าใช้จ่าย
ความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน บริการตรวจความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถระบุและแก้ไขความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความร้อนในที่ทำงานอุตสาหกรรมได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้พนักงานมีสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน