เว็บบอร์ด (ไม่ใช่ช่องทางร้องทุกข์)

ทั่วไป => พูดคุยเรื่องทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: miyeon ที่ มกราคม 29, 2024, 06:16:29 pm

หัวข้อ: โปรตีนจากพืช VS โปรตีนจากสัตว์ เปรียบเทียบกันหมัดต่อหมัด
เริ่มหัวข้อโดย: miyeon ที่ มกราคม 29, 2024, 06:16:29 pm

     โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ มีหน้าที่ในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ กล้ามเนื้อ กระดูก และเนื้อเยื่อต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยในการย่อยอาหาร ขนส่งสารอาหาร และสร้างฮอร์โมนอีกด้วย โดยทั่วไปแล้ว โปรตีนสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทหลักๆ คือ โปรตีนจากพืช และโปรตีนจากสัตว์ (https://befitwithjess.com/blog/is-plant-protein-good/) ทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติและประโยชน์ที่แตกต่างกัน บทความนี้จึงจะเปรียบเทียบกันหมัดต่อหมัด เพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจความแตกต่างของทั้งสองประเภทอย่างละเอียดยิ่งขึ้น

(https://i.imgur.com/zrwnZX7.jpeg)

โปรตีนจากพืช
     โปรตีนจากพืชเป็นโปรตีนที่ได้จากพืช เช่น ถั่ว เมล็ดพืช ธัญพืช ผักใบเขียว และเห็ด โปรตีนจากพืชโดยทั่วไปจะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน ยกเว้นกรดอะมิโนไลซีน ซึ่งพบมากในถั่วเหลืองและถั่วลันเตา ดังนั้น ผู้ที่ต้องการรับประทานอาหารมังสวิรัติหรือวีแกนจึงควรเลือกรับประทานอาหารจากพืชหลากหลายชนิด เพื่อให้ได้รับกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน

ข้อดีของโปรตีนจากพืช

ข้อเสียของโปรตีนจากพืช

โปรตีนจากสัตว์
     ถัดจากโปรตีนจากพืช ก็มาในส่วนโปรตีนจากสัตว์กันบ้าง โดยโปรตีนประเภทนี้เป็นโปรตีนที่ได้จากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ และปลา โปรตีนจากสัตว์โดยทั่วไปจะมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน และมีปริมาณโปรตีนสูง อย่างไรก็ตาม โปรตีนจากสัตว์บางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน นมและไข่ที่มีไขมันอิ่มตัวสูง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

ข้อดีของโปรตีนจากสัตว์

ข้อเสียของโปรตีนจากสัตว์

     โปรตีนจากพืชและโปรตีนจากสัตว์ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนอย่างเหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ไลฟ์สไตล์ เป้าหมายด้านสุขภาพ และรสนิยมส่วนตัว

     หากต้องการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ควรรับประทานโปรตีนจากพืชและโปรตีนจากสัตว์อย่างผสมผสาน โดยเลือกรับประทานอาหารจากพืชเป็นหลัก และรับประทานเนื้อสัตว์ในปริมาณที่พอเหมาะ หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมัน นมและไข่ที่มีไขมันอิ่มตัวสูง สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง หรือโรคอ้วน ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนปรับเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานอาหาร