ผู้เขียน หัวข้อ: บอกต่อ! 5 เทคนิคสำหรับการลงทุนกองทุนรวมแบบ Passive Investing  (อ่าน 1092 ครั้ง)

miyeon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 161
    • ดูรายละเอียด
สำหรับนักลงทุนแล้ว การลงทุนกองทุนรวมเป็นรูปแบบการลงทุนที่หลายคนรู้จักกันอย่างดี แต่ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการลงทุนในกองทุนรวมกันมากขึ้น และมีวิธีการลงทุนในกองทุนรวมแบบ Passive Investing มาบอกกัน
การลงทุนกองทุนรวมเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการลงทุนที่เข้าถึงได้ง่าย มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการลงทุนโดยตรงในหุ้นหรือตราสารหนี้ และมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว สำหรับมืออาชีพที่ต้องการลงทุนกองทุนรวมให้ได้ผลตอบแทนที่ดี สามารถปฏิบัติตามเทคนิคต่อไปนี้ได้

1. กำหนดเป้าหมายการลงทุนกองทุนรวมอย่างชัดเจน
เป้าหมายการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุน การกำหนดเป้าหมายการลงทุนอย่างชัดเจนจะช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกกองทุนรวมที่เหมาะสมและตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเป้าหมายการลงทุน เช่น
ออมทรัพย์เพื่อเกษียณอายุ
มีเงินเก็บฉุกเฉิน
เพิ่มพูนทรัพย์สิน

2. กระจายความเสี่ยง
ความเสี่ยงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการลงทุน การลงทุนกองทุนรวมประเภทเดียวอาจมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นจึงควรกระจายความเสี่ยงโดยลงทุนในกองทุนรวมประเภทต่าง ๆ หรือกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ
ตัวอย่างการกระจายความเสี่ยง เช่น
ลงทุนกองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมตราสารหนี้ และกองทุนรวมผสม
ลงทุนกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ กองทุนรวมหุ้นไทย และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์

3. ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
การลงทุนอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเฉลี่ยต้นทุนการลงทุน ทำให้นักลงทุนมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว
นักลงทุนควรเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อย ๆ และค่อย ๆ เพิ่มเงินลงทุนไปเรื่อย ๆ ตามความสามารถ

4. ลงทุนกองทุนรวมที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ
ค่าธรรมเนียมกองทุนรวมเป็นค่าใช้จ่ายที่นักลงทุนต้องจ่ายให้กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ค่าธรรมเนียมกองทุนรวมที่ต่ำจะช่วยให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น นักลงทุนควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน

5. ลงทุนแบบ passive investing
การลงทุนแบบ Passive Investing หรือการลงทุนตามดัชนี (index investing) เป็นการลงทุนที่เน้นลงทุนตามดัชนีตลาดหลักทรัพย์ เช่น ดัชนี SET50 หรือดัชนี S&P500 การลงทุนแบบ Passive Investing มีข้อดีคือมีต้นทุนการลงทุนที่ต่ำและมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของตลาด
นักลงทุนมืออาชีพมักนิยมลงทุนแบบ Passive Investing เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ง่ายและมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ตัวอย่างกองทุนรวมแบบ Passive Investing
กองทุนรวมดัชนี SET50
กองทุนรวมดัชนี S&P500
กองทุนรวมดัชนี MSCI Emerging Markets
การลงทุนกองทุนรวมเป็นการลงทุนที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลและวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน